ประวัติวันตรุษจีน และสิ่งที่ควรปฏิบัติในวันตรุษจีน

ประวัติวันตรุษจีน-1

หลายคนอาจจะรู้แค่ว่า “วันตรุษจีน” คือวันปีใหม่สำหรับชาวจีนแผ่นดินใหญ่หรือผู้ที่มีเชื้อสายจีน แต่ทั้งนี้ก็อาจจะมีความสับสนในเรื่องของวันและเวลา ว่าเทศกาลนี้จัดขึ้นช่วงไหน แล้วช่วงวันหยุดยาวของจีนในช่วงเดือนตุลาคม คือวันตรุษจีนหรือไม่ วันนี้บอกบุญจะมาไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำสิ่งดี ๆ ที่ควรทำเพื่อเสริมความสิริมงคลสู่ชีวิตในช่วงวันตรุษจีนกัน จะมีอะไรบ้างตามมาอ่านกันได้เลย 

วันตรุษจีน นับจากวันที่ 1 เดือน 1 ของทุกปี โดยนับจากปฏิทินจันทรคติ

ไขข้อสงสัยเรื่องแรกกันก่อนเลย นั่นก็คือเรื่อง “วันตรุษจีน” ที่แท้จริงแล้วนั้นนับอย่างไร โดยวันตรุษจีนจะนับจากวันที่ 1 เดือน 1 ของทุกปี โดยดูจากการขึ้นของพระจันทร์ หรือการนับจากปฏิทินจันทรคติ ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้วันตรุษจีนนั้นไม่มีวันเวลาตามปฏิทินสากลที่ตายตัวเหมือนปีใหม่สากล (1 มกราคม) และสำหรับปฏิทินจันทรคตินี้ เป็นปฏิทินที่ถูกประดิษฐ์โดยชาวฮั่น (จีนแผ่นดินใหญ่) และมีการนิยมใช้อย่างมาก

 

ในประเทศจีน,เกาหลี,ญี่ปุ่น และ เวียดนาม โดยประเทศที่มีการเฉลิมฉลองนั้น จะเป็นประเทศจีนและประเทศที่คนจีนเข้าไปอาศัยอยู่เยอะ เช่น ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่,ฮ่องกง,ไต้หวัน,มาเก๊า,อินโดนีเซีย,สิงคโปร์,มาเลเซีย,ฟิลิปปินส์ และ ไทย แต่ทั้งนี้การเฉลิมฉลองวันตรุษจีนของประเทศไทยนั้นไม่ได้นับเป็นวันหยุดตามราชการแต่อย่างใด 

ประวัติวันตรุษจีน

ประวัติวันตรุษจีน-3

ตามเดิมในอดีตนั้นประเทศจีนมีภูมิอากาศและลักษณะประเทศที่หนาวเย็น มีหิมะปกคลุมอยู่มาก ทำให้ผู้คนต่างรอคอยช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะทำให้พืชผลเจริญงอกงามขึ้น เพราะเหตุนี้ฤดูใบไม้ผลิจึงเป็นฤดูกาลสำคัญ ดั่งสวรรค์โปรดประทาน ชาวจีนจึงได้ถือเริ่มต้นวันแรกของฤดูใบไม้ผลินั้น เป็นวัน “ตรุษจีน” หรือ วันขึ้นปีใหม่จีนนั่นเอง 

 

โดยเมื่อถึงช่วงวันตรุษจีนก็จะมีการเลือกซื้อสิ่งของใหม่ ๆ เช่น เสื้อผ้า ตกแต่งบ้านเรือนหรือเก็บกวาดให้ดูสะอาดตา ทำอาหารพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว และทำการเคารพเทพเจ้าและบรรพบุรุษ เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลสำหรับชีวิต 

 

และสำหรับใครที่สงสัยว่าช่วงเดือนตุลาคมทำไมคนจีนถึงมีวันหยุดยาว วันนั้นไม่ใช่วันตรุษจีนหรอกเหรอ คำตอบก็คือวันนั้นไม่ใช่วันตรุษจีนแต่อย่างใด แต่ช่วงเดือนตุลาคม หรือ วันที่ 1 ตุลาคม นั้นถือว่าเป็น “วันชาติ” ของจีน ตามที่รัฐบาลจีนได้สถาปนาขึ้นมา และได้ให้วันนี้เป็นวันหยุดราชการอีกด้วย 

ตรุษจีน 3 วันในประเทศไทย ประกอบด้วยอะไรบ้าง

ตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย จะถือว่าวันตรุษจีนมีด้วยกันทั้งหมด 3 วัน แบ่งออกได้ดังนี้

1.วันจ่าย หรือวันก่อนสิ้นปี 

วันนี้ถือเป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะมีการจับจ่ายของไหว้ ผลไม้และเครื่องเซ่นต่าง ๆ สำหรับการไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษตามความเชื่อ โดยต้องทำการซื้อของและเตรียมให้เสร็จตั้งแต่วันนี้ เพราะร้านต่าง ๆ ของชาวไทยเชื้อสายจีนจะเริ่มหยุดให้บริการตามความเชื่อในเรื่องการไม่ทำงานในช่วงวันตรุษจีน 

2.วันไหว้ หรือวันสิ้นปี 

วันไหว้จะเป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนทำการไหว้เคารพเพื่อความสิริมงคลแก่ตน โดยแบ่งออกเป็น 3 เวลาดังนี้

2.1) ตอนเช้ามืด 

จะทำการไหว้เทพเจ้า หรือ เรียกว่า “ป้ายเล่าเอี๊ยะ”  (拜老爺 / 拜老爷) เป็นการไหว้เทพเจ้าที่ชาวไทยเชื้อสายจีนเคารพนับถือ โดยเครื่องไหว้นั้นจะมีเนื้อสัตว์ 3 อย่าง ได้แก่ หมู,ไก่ และ เป็ด (ซาแซ,ซำเช้ง) หรือถ้าเพิ่ม เนื้อปลา และ ตับ รวมกันเป็น 5 ชนิด (โหงวแซ) ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ต้องมีน้ำชา เหล้า และกระดาษเงิน กระดาษทอง 

2.2)ตอนสาย 

จะเป็นการไหว้เคารพบรรพบุรุษหรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เราจะเรียกการไหว้นี้ว่า “ป้ายแป๋บ้อ” (拜父母) โดยพิธีนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จก่อนช่วงเที่ยง โดยเมื่อทำพิธีเสร็จแล้วก็จะมีการกินดื่มระหว่างครอบครัวใหญ่ และให้อั่งเปาต่อผู้น้อยในครอบครัว โดยเครื่องเซ่นบรรพบุรุษจะมี ชุดเนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือ ซาแซ อาหารคาวหวานที่บรรพบุรุษชอบ กระดาษเงิน กระดาษทอง รวมไปถึงเสื้อผ้ากระดาษ ของใช้กระดาษ หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า กงเต๊ก ก็จะทำการเผาไปให้บรรพบุรุษ

2.3) ตอนบ่าย 

จะเป็นการไหว้ญาติพี่น้อง หรือ สัมภเวสีทั่วไป เรียกกันว่า “ป้ายฮ่อเฮียตี๋” (拜好兄弟) โดยหลังจากไหว้เสร็จแล้ว เราจะทำการจุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป 

3.วันเที่ยว หรือวันขึ้นปีใหม่ 

วันนี้ชาวไทยเชื้อสายจีนจะทำการแต่งตัวให้ดูดี และออกไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนคลาย หรือทำการเยี่ยมและนำของไปฝากญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ โดยส่วนใหญ่จะใช้ส้มเป็นสื่อกลาง หรือของมงคลที่มีสีแดง สีทอง เป็นต้น 

โดยวันนี้เราจะไม่ทำงานเพราะมีความเชื่อว่าถ้าทำงานในวันเที่ยว จะต้องเหน็ดเหนื่อยไปตลอดทั้งปี 

 

 

ความเชื่อและสิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 

ความเชื่อและสิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 

1.ทำพิธีรับเทพเจ้า ไฉ่ ซิง เอี๊ยะ เพื่อรับโชคลาภ 

2.ใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส ไม่มืด เพื่อความสดใสและเจริญรุ่งเรืองตลอดทั้งปี 

3.ไม่ทำความสะอาดบ้าน เพราะถือจะเป็นการปัดกวาดสิ่งมงคลออกไป 

4.ไม่ทำงานในวันตรุษจีน เพราะจะทำให้งานตลอดทั้งปีมีแต่ความเหน็ดเหนื่อย 

5.ไหว้ขอพรผู้ใหญ่ในบ้านด้วยผลไม้มงคล อย่าง ส้ม 4 ผล 

6.ไม่พูดคำหยาบคาย ด่าทอกัน เพราะจะทำให้เรื่องแย่เข้ามาในชีวิต 

7.ห้ามสระผม เพราะจะทำให้ความมงคลไหลออกไปกับน้ำ 

8.ไม่ใช้ของมีคม เพราะจะเหมือนการตัดโชคลาภของตนออกไป 

9.ไม่ใส่เสื้อสีดำ-ขาว เพราะจะเหมือนการไว้ทุกข์ นำความไม่ดีเข้าสู่ชีวิต

10.ห้ามทำของแตก เพราะจะทำให้คนในบ้านอาจล้มป่วยได้

“วันตรุษจีน” เป็นอีกหนึ่งวันที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนไทยที่มีเชื้อสายจีน ดังนั้นถึงแม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ ก็ควรศึกษาและรักษาประเพณีที่ดีงามของบรรพบุรุษให้สืบเนื่องต่อไป โดยทั้งนี้ก็สามารถปรับตามความเชื่อส่วนบุคคล เพื่อความสบายใจของตัวเราและคนในครอบครัว จะได้มีวันหยุดที่มีความสุขและพร้อมรับสิ่งดี ๆ ในปีใหม่ไปด้วยกันนะคะ